แนะนำบาร์รูฟท็อปที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ

วิวเมืองกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนถือเป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่งดงามและน่าประทับใจที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วิธีที่ดีที่สุดในการดื่มด่ำกับเสน่ห์ของเมืองนี้คือการจิบค็อกเทลบนบาร์รูฟท็อปสุดหรูที่ตั้งอยู่บนตึกระฟ้า ที่นี่มีบาร์รูฟท็อปมากมาย แต่ละแห่งต่างก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว รอให้คุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง

ทำไมต้องไปบาร์รูฟท็อปในกรุงเทพฯ?

ด้วยอากาศร้อนชื้นของกรุงเทพฯ การได้ขึ้นไปผ่อนคลายบนที่สูง สัมผัสลมเย็น พร้อมชมวิวเมืองแบบพาโนราม่าและจิบเครื่องดื่มที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน จะมอบค่ำคืนที่คุณไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเป็นเดทสุดโรแมนติก การพบปะทางธุรกิจ หรือแค่ต้องการผ่อนคลายชมวิวสวยๆ บาร์รูฟท็อปในกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ

บาร์รูฟท็อปยอดนิยม

1. Sky Bar โรงแรมเลอบัว (บาร์จากภาพยนตร์ The Hangover II)

ทำเล: สีลม
จุดเด่น: โลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ดัง วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 360 องศา

Sky Bar ตั้งอยู่ที่ชั้น 63 ของโรงแรมเลอบัว เป็นหนึ่งในบาร์รูฟท็อปที่โด่งดังระดับโลกจากภาพยนตร์ The Hangover II ที่นี่มีโดมสีทองอันเป็นสัญลักษณ์ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามเกินบรรยาย

เครื่องดื่มแนะนำ: Hangovertini – ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของชาเขียว แอปเปิ้ล น้ำผึ้ง และ Martini Rosso

การแต่งกาย: มีข้อบังคับที่เข้มงวด ห้ามใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ และรองเท้ากีฬา

2. Octave Rooftop Bar and Lounge

ทำเล: ทองหล่อ (สุขุมวิท 55/57)
จุดเด่น: บาร์สามชั้น วิวเมืองรอบทิศทาง

Octave ตั้งอยู่บนยอดโรงแรม Marriott มอบวิวเมืองในหลายระดับชั้น โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดีและสบายๆ เหมาะกับการมานั่งชิลกับกลุ่มเพื่อน

เครื่องดื่มแนะนำ: Chocolate Negroni – ค็อกเทล Negroni ที่ผสมช็อกโกแลตบิทเทอร์

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ก่อนพระอาทิตย์ตกถึงช่วง 21:00 น. มีโปรโมชั่น Happy Hour

3. CRU Champagne Bar

ทำเล: เซ็นทรัลเวิลด์, สยาม
จุดเด่น: บาร์รูฟท็อปสำหรับแชมเปญโดยเฉพาะแห่งเดียวในกรุงเทพฯ

ตั้งอยู่ชั้น 59 ของ Centara Grand ให้บริการแชมเปญคุณภาพสูงและวิวเมืองแบบพาโนราม่า รอบระเบียงมีดีไซน์สวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปลง Instagram

แชมเปญแนะนำ: G.H. Mumm No.1 Pink Champagne

เคล็ดลับ: ควรจองโต๊ะริมขอบ เพื่อได้วิวที่สวยที่สุด

4. Vertigo and Moon Bar

ทำเล: สาทร
จุดเด่น: ดื่มด่ำกับดินเนอร์สุดหรูบนลานเฮลิคอปเตอร์เก่า

Vertigo and Moon Bar บนโรงแรมบันยันทรีชั้น 61 โดดเด่นด้วยพื้นที่เปิดโล่งเต็มรูปแบบ ให้คุณได้สัมผัสวิวเมืองที่ไร้สิ่งบดบัง

เครื่องดื่มแนะนำ: Vertigo Sunset – ส่วนผสมของไวน์แดงเมอร์โล เตกีล่า และน้ำผลไม้เมืองร้อน

คำแนะนำ: เช็กสภาพอากาศก่อน เพราะอาจปิดบริการในช่วงฤดูฝน

5. Above Eleven

ทำเล: สุขุมวิท ซอย 11
จุดเด่น: เมนูฟิวชั่นเปรู-ญี่ปุ่น และค็อกเทลแปลกใหม่

Above Eleven มาพร้อมอาหารฟิวชั่นสไตล์เปรู-ญี่ปุ่น และบรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Central Park ในนิวยอร์ก มีมุมแปลกตาให้ถ่ายรูปมากมาย

เมนูแนะนำ: Pisco Sour และอาหารทาปาสสไตล์เปรู

เคล็ดลับ: ห้องน้ำมีวิวสุดตระการตา แต่มั่นใจได้ว่าไม่มีใครเห็นคุณจากข้างนอก

เคล็ดลับการไปบาร์รูฟท็อป

1. จองล่วงหน้า: โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดหรือฤดูท่องเที่ยว
2. แต่งกายสุภาพ: หลีกเลี่ยงเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ
3. ช่วงเวลาที่เหมาะสม: มาถึงก่อนพระอาทิตย์ตก 30-45 นาที
4. เตรียมงบ: ราคาเครื่องดื่มเฉลี่ย 300-500 บาทต่อแก้ว
5. ตรวจสอบสภาพอากาศ: อาจมีการปิดให้บริการชั่วคราวในช่วงหน้าฝน

บทสรุป

บาร์รูฟท็อปในกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่สถานที่ดื่มเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งมุมที่คุณจะได้สัมผัสเสน่ห์ของเมืองที่ไม่มีวันหลับใหลอย่างแท้จริง